ประกันคุ้มครองแผ่นดินไหว ภัยพิบัติธรรมชาติไม่สามารถคาดเดาได้และมักทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สิน เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุ หรือไฟไหม้ หากไม่มีการเตรียมพร้อมก่อนล่วงหน้า อาจทำให้เกิดภาระหนักตามมา การทำประกันภัยที่คุ้มครองภัยพิบัติจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์เหล่านี้

แล้วประกันที่คุ้มครองภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือไฟไหม้มีประกันอะไรบ้าง? เราไปดูกัน

ประกันคุ้มครองแผ่นดินไหว คืออะไร

ประกันภัยคุ้มครองแผ่นดินไหว เป็นประกันที่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งอาจรวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของพื้นดิน การแตกหักของอาคาร หรือความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงหลังจากแผ่นดินไหว เช่น คลื่นสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเลหรือการเกิดดินถล่มที่อาจเกิดขึ้นจากแรงสั่นสะเทือน

ประกันแผ่นดินไหวมักจะเป็นส่วนหนึ่งของประกันภัยอาคารหรือประกันภัยบ้าน (Home Insurance) หรือสามารถเลือกทำแยกต่างหากได้ ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันที่คุณเลือก ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบ้านหรือทรัพย์สินของคุณ อย่างน้อยถ้าเกิดบ้านหรือคอนโดของเรามีการเสียหายจะได้ไม่ต้องนั่งเครียด และสามารถส่งเรื่องให้ประกันได้เลยโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากนั่งเล่นหวยไวรอไปสบายๆ

ประกันคุ้มครองแผ่นดินไหว

ประเภทของ ประกันคุ้มครองแผ่นดินไหว

ประกันภัยอาคาร (Property Insurance) ประกันภัยประเภทนี้จะครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหว รวมถึงการพังทลายของอาคารหรือทรัพย์สินในอาคาร เช่น กำแพงบ้านหลังคา หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว โดยปกติแล้ว ประกันภัยอาคารจะรวมถึงความเสียหายจากภัยพิบัติอื่น ๆ ด้วย เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม และอัคคีภัย ซึ่งทำให้คุณได้รับการคุ้มครองครอบคลุมจากภัยธรรมชาติที่หลากหลาย

ประกันภัยบ้าน (Home Insurance) ประกันภัยบ้านคือประกันที่ให้ความคุ้มครองทั้งในด้านการคุ้มครองบ้านและทรัพย์สินส่วนบุคคลที่อยู่ในบ้าน โดยทั่วไปแล้วประกันภัยบ้านจะครอบคลุมความเสียหายจากภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือไฟไหม้ หากคุณซื้อประกันประเภทนี้ การคุ้มครองจากแผ่นดินไหวจะรวมอยู่ในกรมธรรม์ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านหรือทรัพย์สินที่เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ประกันภัยรถยนต์ (Car Insurance) ในบางกรณี หากคุณมีรถยนต์และอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว ประกันภัยรถยนต์บางประเภทอาจครอบคลุมถึงความเสียหายจากแผ่นดินไหว เช่น รถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนหรือจากซากอาคารที่ล้มลง หรือจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายหลังแผ่นดินไหว

ประกันภัยสุขภาพ (Health Insurance) หากเกิดแผ่นดินไหวและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ ประกันภัยสุขภาพอาจให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว ทั้งในโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน ขึ้นอยู่กับแผนประกันสุขภาพที่คุณเลือก

ประกันภัยธุรกิจ (Business Insurance) สำหรับเจ้าของธุรกิจ ประกันภัยประเภทนี้จะครอบคลุมความเสียหายจากแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจ เช่น อาคารสำนักงาน หรือโรงงาน โดยประกันนี้อาจจะครอบคลุมทั้งอาคารที่ได้รับความเสียหาย และอุปกรณ์เครื่องมือในการดำเนินธุรกิจที่ถูกทำลายจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ความคุ้มครองที่ได้รับจาก ประกันคุ้มครองแผ่นดินไหว

เมื่อคุณทำประกันแผ่นดินไหว คุณจะได้รับความคุ้มครองจากความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยหลัก ๆ จะครอบคลุมถึง:

  • ความเสียหายต่ออาคารและบ้าน: หากบ้านหรืออาคารของคุณได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือน เช่น ผนังร้าว หลังคาพัง หรือฐานรากที่เสียหาย ประกันจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือการก่อสร้างใหม่
  • ความเสียหายจากคลื่นสึนามิ: หากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทำให้เกิดคลื่นสึนามิที่มีผลกระทบต่อทรัพย์สินของคุณในพื้นที่ชายฝั่ง ประกันแผ่นดินไหวบางประเภทจะครอบคลุมความเสียหายจากเหตุการณ์นี้
  • ค่ารักษาพยาบาล: หากเกิดการบาดเจ็บจากแผ่นดินไหว การรักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บอาจได้รับการคุ้มครองจากประกันสุขภาพ
  • ความเสียหายจากการล้มของอุปกรณ์: ในกรณีที่อุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ได้รับความเสียหายจากการสั่นสะเทือน ประกันอาจครอบคลุมการซ่อมแซมหรือทดแทนใหม่

ประโยชน์ของการทำประกันแผ่นดินไหว

  1. ความมั่นคงทางการเงิน: เมื่อเกิดแผ่นดินไหวและเกิดความเสียหาย ประกันแผ่นดินไหวจะช่วยให้คุณได้รับการคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านหรือทรัพย์สิน ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงินของคุณในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
  2. การป้องกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ: ประกันแผ่นดินไหวช่วยให้คุณสามารถลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า และช่วยให้คุณมีความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง
  3. การคุ้มครองครบวงจร: ประกันที่คุ้มครองแผ่นดินไหวมักจะรวมถึงภัยพิบัติอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน เช่น ไฟไหม้หรือการเสียหายจากคลื่นสึนามิ ทำให้การคุ้มครองของคุณเป็นแบบครบวงจร

แผน ประกันคุ้มครองแผ่นดินไหว ที่น่าสนใจ

  1. ประกันภัยอาคารหรือบ้าน (Property Insurance)

ประกันภัยอาคารหรือบ้านที่คุ้มครองภัยพิบัติเป็นประกันที่ครอบคลุมความเสียหายจากภัยธรรมชาติหลายประเภท เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุ หรือไฟไหม้ โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บหรือเสียหายจากเหตุการณ์เหล่านี้ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือสร้างบ้านใหม่หลังภัยพิบัติ

แผนประกันภัยอาคารที่น่าสนใจ:

  • กรุงเทพประกันภัย (Bangkok Insurance) – ประกันภัยอาคารบ้านเรือน: ประกันภัยนี้ครอบคลุมความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว และภัยพิบัติธรรมชาติอื่น ๆ สามารถเลือกแผนที่มีความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม หรือการย้ายทรัพย์สินในกรณีฉุกเฉิน
  • กรุงเทพประกันภัย (Bangkok Insurance) – บ้านคุ้มครองภัยธรรมชาติ: แผนนี้เหมาะสำหรับบ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ประกันครอบคลุมทั้งความเสียหายจากแผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุ และการโจรกรรมที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติ
  1. ประกันภัยชีวิต (Life Insurance)

ประกันชีวิตคุ้มครองชีวิตและการรักษาพยาบาลกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหวหรือพายุ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและร่างกายของผู้เอาประกัน ประกันภัยชีวิตบางแผนอาจรวมถึงการคุ้มครองจากภัยพิบัติที่เกิดจากเหตุการณ์ธรรมชาติ

แผนประกันชีวิตที่น่าสนใจ:

  • ไทยประกันชีวิต (Thai Life Insurance) – ประกันชีวิตคุ้มครองภัยพิบัติ: แผนนี้ช่วยคุ้มครองผู้เอาประกันจากความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ รวมถึงการจ่ายค่าชดเชยกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
  • กรุงเทพประกันชีวิต (Bangkok Life Assurance) – ประกันชีวิตคุ้มครองภัยธรรมชาติ: ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอุบัติเหตุหรือภัยธรรมชาติที่กระทบต่อชีวิตและร่างกาย รวมถึงการรักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดจากแผ่นดินไหวหรือภัยพิบัติธรรมชาติ
  1. ประกันภัยสุขภาพ (Health Insurance)

ประกันสุขภาพที่คุ้มครองภัยพิบัติจะช่วยให้คุณได้รับการรักษาพยาบาลกรณีที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ เช่น แผ่นดินไหวหรือพายุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บทางร่างกาย โดยที่ประกันสุขภาพบางแผนอาจจะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลจากการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ

แผนประกันสุขภาพที่น่าสนใจ:

  • เอไอเอ (AIA) – ประกันสุขภาพคุ้มครองภัยพิบัติ: แผนนี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว หรืออุบัติเหตุที่เกิดจากพายุ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการการคุ้มครองจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
  • ไทยประกันชีวิต (Thai Life Insurance) – ประกันสุขภาพภัยพิบัติ: คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น การบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวหรือสึนามิ
  1. ประกันภัยสำหรับธุรกิจ (Business Insurance)

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ดำเนินการในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ ประกันภัยธุรกิจจะช่วยปกป้องทั้งอาคารและทรัพย์สินในธุรกิจ เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือแม้กระทั่งการหยุดชะงักของธุรกิจจากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น

แผนประกันภัยธุรกิจที่น่าสนใจ:

  • กรุงเทพประกันภัย (Bangkok Insurance) – ประกันภัยธุรกิจ: ให้ความคุ้มครองธุรกิจจากภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือไฟไหม้ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้โดยเร็ว
  • สมบูรณ์ประกันภัย (Siam Commercial Insurance) – ประกันภัยธุรกิจ: เหมาะสำหรับธุรกิจที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงภัย ประกันจะช่วยคุ้มครองทรัพย์สินในธุรกิจที่เกิดความเสียหายจากภัยพิบัติธรรมชาติ และค่ารักษาพยาบาลสำหรับพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บ

     

  1. ประกันภัยภัยพิบัติธรรมชาติที่เฉพาะเจาะจง

สำหรับผู้ที่อาศัยในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงจากภัยพิบัติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือคลื่นสึนามิ มีประกันที่เฉพาะเจาะจงในการคุ้มครองภัยพิบัติเหล่านี้โดยตรง เช่น ประกันภัยน้ำท่วม หรือแผนประกันภัยแผ่นดินไหว

แผนประกันภัยภัยพิบัติที่น่าสนใจ:

  • ประกันภัยน้ำท่วม: สำหรับผู้ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม จะช่วยครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วม ทั้งบ้านและทรัพย์สิน

     

  • ประกันภัยแผ่นดินไหว: ในบางพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว สามารถเลือกทำประกันภัยที่เฉพาะเจาะจงคุ้มครองความเสียหายจากการสั่นสะเทือน

สรุป

การทำประกันแผ่นดินไหวเป็นการเตรียมความพร้อมและคุ้มครองตัวเองจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงจากการสูญเสียทางการเงินและทรัพย์สินได้ การเลือกประกันที่มีการคุ้มครองแผ่นดินไหวควรพิจารณาความคุ้มครองที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน เพื่อให้คุณมั่นใจว่าหากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว คุณจะได้รับการดูแลและคุ้มครองอย่างครบถ้วน